สวัสดีครับทุก่าน สำหรับบทความชุด 30 ตอนนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศไทย ในการส่งเสริมอาชีพครอบครัวคนพิการ เพราะเรามองเป็นองค์รวม เราไม่แยกคนพิการออกจากครอบครัวของเขา และบริษัท/ สถานประกอบการ ที่นับเป็นต้นแบบแรกของไทยก็ว่าได้ คือ บริษัทมาม่า หรือชื่อเต็มคือ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) นั่นเอง โดยใช้กระบวนการในการคัดเลือกและมอบสิทธิคนพิการให้กับ "พนักงานของมาม่า" โดยตรง เราจึงตั้งชื่อโครงการนี้ให้สั้นลงและสื่อถึงการเป็นต้นแบบให้กับสถานประกอบการอื่นว่า "มาม่าโมเดล" (MAMA model)
สำหรับรายละเอียดของ "มาม่าโมเดล" สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้
เรามาพบกับตอนที่ 2/30 ซึ่งเป็นครอบครัวที่ทาง บริษัทมาม่า พิจารณาให้เป็นพิเศษนอกเหนือจากการเป็น สิทธิของพนักงานมาม่า อันเนื่องจาก มีพนักงานมาม่า ขอสละสิทธิ์ในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งส่วนตัวผมเอง มีความประทับใจในความเป็นระเบียบ ในความมีจิตสำนึกที่ดี ของพนักงานมาม่า ทุกท่านอย่างมาก เพราะพนักงานมาม่า ที่ได้รับโอกาสบนั้น มีความดีใจ ปลื้มใจกับ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายบุคคล ทุกท่านที่ให้โอกาสในการประกอบอาชีพกับครอบครัวของตนเอง มีมูลค่าถึง 114,245 บาท และทุกท่านตระหนักดีว่า จะต้องดำเนินการให้สำเร็จลุล่วง
ปรากฏว่าในระหว่างดำเนินการมีพนักงานมาม่าหลายท่านสละสิทธิ เพราะเกรงว่าจะทำให้โครงการ "มาม่าโมเดล" ไม่ประสบความสำเร็จเพียงเพราะครอบครัวของตนเองไม่มีความพร้อม และขอใช้สิทธิ์ในปีถัดไป หลายท่านอยากได้สิทธิ์ เมื่อพิจารณาตนเองและครอบครัวว่าจะทำไม่ได้ ก็สละสิทธิ์เช่นกัน ดังนั้นแล้ว ผู้อ่านทุกท่านไม่ต้องแปลกใจเลยว่า 48 ปีที่ผ่านมา เหตุใดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา "มาม่า" ถึงประสบความสำเร็จ ครองยอดขายเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยมาโดยตลอด เพราะแม้ในระดับของพนักงานในสายการผลิต ยังมีคุณธรรม มีจริยธรรม ที่ดีงาม สะท้อนวัฒนธรรมองค์กรที่ดี อย่างไม่ต้องสงสัยในความสำเร็จที่ทุกท่านประจักษ์
ดังนั้นในตอน 2/30 จึงเป็นครอบครัวคนพิการ ที่ไม่ใช่พนักงานมาม่า แต่เป็นครอบครัวที่เคยถูกสมาคม/มูลนิธิด้านคนพิการ โกงสิทธิ์ไปและไม่ได้รับความเป็นธรรม เราในฐานะที่เป็นตัวกลาง "ดับบลิวโอ" WO (Workable Organization) จึงขอนำเสนอข้อมูลให้คนพิการ ครอบครัวคนพิการ และสถานประกอบการ ได้ทราบถึงข้อมูลที่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อไม่ริดรอนสิทธิตามกฎหมาย เต็มมูลค่า 114,245 บาท ตามอ่านได้เลยครับ
ลำดับแรก เราขอนำเสนอเอกสารโครงการที่ถูกต้องในการยื่นเรื่องขอใช้สิทธิตามมาตรา 35 พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ประกอบด้วย สัญญาโครงการ+หนังงสือยื่นขอใช้สิทธิมาตรา 35 ของคนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ กกจ.พก.1+สำเนาบัตรทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ของคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ และในกรณีนี้คนพิการพิมพ์ลายนิ้วมือ จึงต้องมีสำเนาบัตรประชาชนคนเซ็นต์ชื่อรับรองลายนิ้วมือด้วยครับ และสุดท้ายต้องมี "ใบรายะเอียดโครงการ" แต่ผมขอนำไปเขียนในบทความใหม่อีกชุดหนึ่งให้ทุกท่านทราบเพื่อเป็นแนวทางที่ถูกต้องและถูกกฎหมายต่อไปครับ
ลำดับที่สอง เป็นภาพถ่าย ระหว่างการดำเนินงาน ประกอบด้วย หน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ได้รับเงิน+ภาพถ่ายระหว่างดำเนินการ เช่น การไปซื้อสินค้าเข้าร้าน+ภาพถ่ายที่ดำเนินการเสร็จแล้ว+ภาพถือป้ายได้รับมองเงิน 114,245 บาท ที่ได้รับจากบริษัทมาม่า กรณีนี้คือ คุณรินดา กำลังซื้อสินปุ๋ยและวัสดุสำหรับเลี้ยงหมู ที่ร้านค้าใน จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งตอนส่งมอบงานถ่ายภาพมีผู้ใหญ่บ้านมาร่วมรับรู้ถึงสิทธิคนพิการ และร่วมแสดงความยินดีด้วย
ลำดับที่ 3 ลำดับสุดท้ายในการนำเสนอข้อมูลที่ต้องเรียกว่า สำคัญมากๆ คือ การแสดงใบเสร็จรับเงิน หรือ ใบรับเงิน ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกรณี "ใบรับเงิน" ของโครงการ ต้องมีสำเนาบัตรประชาชนผู้รับเงิน และสำเนาทะเบียนการค้า (ถ้ามี) มาให้ครบถ้วน หากร้านค้าใดไม่มีการออกใบรับเงิน/ใบเสร็จรับเงิน ให้กับผู้ใช้สิทธิ์ (ผู้ซื้อ) ต้องแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน มาแสดงแทน อันเป็นการแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจที่ดำเนินการใช้จ่ายซื้อสินค้า วัสดุ อุปกรณ์ ครบถ้วนไม่น้อยกว่า 114,245 บาท ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ครับ
สำหรับโครงการ MAMA model ส่งเสริมอาชีพครอบครัวคนพิการ (พนักงานบริษัทมาม่า) ตอนที่ 2/30 @ อาชีพเลี้ยงหมู จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นอีกตัวอย่างที่ถูกต้อง ถูกกฏหมาย คนพิการ/ ผู้ดูแลคนพิการ/ ครอบครัวคนพิการ ได้รับสิทธิครบถ้วน มูลค่า 114,245 บาท ผมอยากให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะสถานประกอบการทั่วประเทศ ดูไว้เป็นตัวอย่าง เพราะหากท่านนำโครงการดีๆ แบบนี้ ไปผ่านสมาคมคนพิการ มูลนิธิคนพิการ ที่ทุจริตคอรัปชั่น บริษัทของท่าน ก็จะตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะกระทำผิดกฎหมาย ต้องไปจ่ายเงินซ้ำเข้ากองทุนส่งเสริมคนพิการฯ พร้อมดอกเบี้ยค่าปรับ
ต้องขอขอบพระคุณผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารทุกฝ่าย จนท.ฝ่ายบุคคล ทุกท่าน ทุกโรงงานของบริษัทมาม่า ที่ได้ทุ่มเท ร่วมมือกันจน โครงการ MAMA model ส่งเสริมอาชีพครอบครัวคนพิการ (พนักงานบริษัทมาม่า) ประสบความสำเร็จ จนเป็นต้นแบบสำคัญให้กับสถานประกอบการทั่วประเทศ และเป็นการช่วยเหลือครอบครัวคนพิการให้ได้รับสิทธิครบถ้วนเ ตามมูลค่า 114,245 บาท อย่างแท้จริง ครับ
"ดับบลิวโอ WO ของเรา พร้อมให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง ถูกกฎหมาย กับสถานปรจะกอบการทุกแห่งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น