สวัสดีครับทุกท่าน ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผมเปรียบเสมือน นำเอาวันหยุดประจำปีของทุกปีมาร้อยเรียงกัน เพราะทุกๆ วันหยุดยาวเช่น ปีใหม่ สงกรานต์ วันพระใหญ่ เป็นต้น จะเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ให้เวลากับตัวเอง การสื่อสารกันจะน้อย ช่วงวิกฤติโควิดก็มีสภาพเดียวกันยิงยาว จะมีก็แต่มีคนพิการที่กำลังลำบากติดต่อผมมากว่าปกติ ก็เรียกว่าความทุกข์ของคนพิการอยู่ในใจผมตลอด สำหรับบทความตอนนี้ผมอยากสื่อสารถึงการช่วยคนพิการอย่างเป็นระบบนะครับ
ปัญหาของคนพิการที่มีฐานะยากจนหากเราสามารถแก้ไขได้ ผมคิดว่าเราจะสามารถแก้ปัญหาในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะบททดสอบการแก้ปัญหาความยากจนของคนพิการและครอบครัวในไทยนั้น ค่อนข้างหนักหนาสาหัสทีเดียว และผมยังเชื่ออีกว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทย อาจจะเป็นทั่วโลก เพราะฐานประชากรคนพิการนั้น เปราะบางและอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันของคนพิการนั้นมีน้อยมากๆ ถึงไม่มีเลย ทำให้กระบวนการทุจริตคอรัปชั่น และทุจริตประพฤติมวิชอบ เข้ามาครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่แตกต่างกับประชากรเปราะบางกลุ่มอื่นๆ เช่น คนชายขอบ คนเร่ร่อน การค้ามนุษย์ เด็กกำพร้า เด็กหญิงและสตรีที่ถูกค้ามนุษย์ ชาวต่างด้าว เป็นต้น ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่
ดังนั้นสำหรับผมแล้ว การช่วยฉุดคนพิการออกมาจากเรื่องการทุจริตที่เป็นฐานใหญ่ที่มั่นคงแข็งแรง ต้องใช้วิธีน้ำหยดลงหินทุกวัน ให้หินมันกร่อนไปเอง ซึ่งต้องใช้เวลานานมาก แต่ด้วยภาวะเชื้อไวรัสโควิดระบาด ทำให้มีสมาธิมากขึ้น ทำให้ผมคิดกระบวนการ 4 ปีขึ้นมา ผมเรียกเอง ตั้งชื่อเองว่า กระบวนการ "CORRUPTION ESCAPE PROCESS for PWDs" สำหรับคนพิการ (ตั้งชื่อสดๆ ตอนพิมพ์บทความนี้ละครับ) ซึ่งเป็นกระบวนการภายใต้โครงการหลัก "กระบวนการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพครอบครัวคนพิการอย่างยั่งยืนแบบองค์รวม" แน่นอนว่า เวลาผมคิดทำโครงการใดๆ ผมจะต้องทำแผนผังด้วย เพื่อทะเลาะพูดคุยกับตัวเองให้จบก่อน รวมถึงต้องดูความเป็นไปได้ด้วย ว่าสามารถทำให้เป็นจริงได้ไหม
ส่วนตัวผมตื่นเต้นมากที่จะเริ่มดำเนินการโครงการนี้ และผมต้องการแนวร่วม คือ คนพิการและครอบครัว จำนวนอย่างน้อย 1,000 คน ซึ่งเร็วๆ นี้ ผมจะประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทาง อยากให้คนพิการที่ต้องการหลุดพ้นจากวงจรทุจริตคอรัปชั่นมาร่วมโครงการนี้ด้วยกัน คนที่ลำบากที่สุดจะได้รับความช่วยเหลือในปีแรกๆ คนที่แข็งแรงที่สุด+เสียสละที่สุด จะปิดท้ายได้รับความช่วยเหลือในปีที่ 4 ดังนั้นทั้ง 1,000 คนจะรอดหลุดพ้นจากความจนความลำบาก อีกทั้งจะยกระดับตัวเองในการ กลายเป็นผู้ประกอบารและนักลงทุน ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกๆ ปีในปีที่ 5 เป็นต้นไป อนาคตอันใกล้นี้ หากมีหน่วยงาน องค์กรคนพิการใดๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นำกระบวนการ "CORRUPTION ESCAPE PROCESS for PWDs" ไปใช้ ภายใน 4 ปี คนพิการทั้งกลุ่ม 1 พันคนจะหลุดพ้นความยากจน และภายใน 10 ปี คนพิการและครอบครัวทั้งหมด 1 พันคนจะยกระดับเป็นชนชั้นที่มีรายได้ปานกลางมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดี แน่นอนว่า "ถ้าคนพิการทำได้ โมเดลนี้คนไม่พิการก็ต้องทำได้เช่นกัน รวมถึงกลุ่มเปราะบางอื่นๆ ด้วย" นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมตื่นเต้นกับโครงการนี้มากๆ ครับ
อีกอึดใจเดียวนะครับ ผมกำลังเตรียมทำข้อมูล 2 ชุดสุดท้าย บวกกับเตรียมตัวขึ้นนศาลเพื่อฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ 2 คดีอาญา และขึ้นศาลเพื่อ "นัดพร้อม" คดีแพ่ง 1 คดี ภายในช่วงสิ้นเดือนเมษายน 2563 นี้ให้เรียบร้อยก่อน แล้วผมจะรีบโปรโมทโครงการ และทำนำร้องให้คนพิการและครอบครัวจำนวน 1,000 คนแรก หลุดพ้นจากความยากจนให้เป็นตัวอย่างกับสังคมไทยครับ
ปัญหาของคนพิการที่มีฐานะยากจนหากเราสามารถแก้ไขได้ ผมคิดว่าเราจะสามารถแก้ปัญหาในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะบททดสอบการแก้ปัญหาความยากจนของคนพิการและครอบครัวในไทยนั้น ค่อนข้างหนักหนาสาหัสทีเดียว และผมยังเชื่ออีกว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทย อาจจะเป็นทั่วโลก เพราะฐานประชากรคนพิการนั้น เปราะบางและอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันของคนพิการนั้นมีน้อยมากๆ ถึงไม่มีเลย ทำให้กระบวนการทุจริตคอรัปชั่น และทุจริตประพฤติมวิชอบ เข้ามาครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่แตกต่างกับประชากรเปราะบางกลุ่มอื่นๆ เช่น คนชายขอบ คนเร่ร่อน การค้ามนุษย์ เด็กกำพร้า เด็กหญิงและสตรีที่ถูกค้ามนุษย์ ชาวต่างด้าว เป็นต้น ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่
ดังนั้นสำหรับผมแล้ว การช่วยฉุดคนพิการออกมาจากเรื่องการทุจริตที่เป็นฐานใหญ่ที่มั่นคงแข็งแรง ต้องใช้วิธีน้ำหยดลงหินทุกวัน ให้หินมันกร่อนไปเอง ซึ่งต้องใช้เวลานานมาก แต่ด้วยภาวะเชื้อไวรัสโควิดระบาด ทำให้มีสมาธิมากขึ้น ทำให้ผมคิดกระบวนการ 4 ปีขึ้นมา ผมเรียกเอง ตั้งชื่อเองว่า กระบวนการ "CORRUPTION ESCAPE PROCESS for PWDs" สำหรับคนพิการ (ตั้งชื่อสดๆ ตอนพิมพ์บทความนี้ละครับ) ซึ่งเป็นกระบวนการภายใต้โครงการหลัก "กระบวนการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพครอบครัวคนพิการอย่างยั่งยืนแบบองค์รวม" แน่นอนว่า เวลาผมคิดทำโครงการใดๆ ผมจะต้องทำแผนผังด้วย เพื่อทะเลาะพูดคุยกับตัวเองให้จบก่อน รวมถึงต้องดูความเป็นไปได้ด้วย ว่าสามารถทำให้เป็นจริงได้ไหม
ส่วนตัวผมตื่นเต้นมากที่จะเริ่มดำเนินการโครงการนี้ และผมต้องการแนวร่วม คือ คนพิการและครอบครัว จำนวนอย่างน้อย 1,000 คน ซึ่งเร็วๆ นี้ ผมจะประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทาง อยากให้คนพิการที่ต้องการหลุดพ้นจากวงจรทุจริตคอรัปชั่นมาร่วมโครงการนี้ด้วยกัน คนที่ลำบากที่สุดจะได้รับความช่วยเหลือในปีแรกๆ คนที่แข็งแรงที่สุด+เสียสละที่สุด จะปิดท้ายได้รับความช่วยเหลือในปีที่ 4 ดังนั้นทั้ง 1,000 คนจะรอดหลุดพ้นจากความจนความลำบาก อีกทั้งจะยกระดับตัวเองในการ กลายเป็นผู้ประกอบารและนักลงทุน ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกๆ ปีในปีที่ 5 เป็นต้นไป อนาคตอันใกล้นี้ หากมีหน่วยงาน องค์กรคนพิการใดๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นำกระบวนการ "CORRUPTION ESCAPE PROCESS for PWDs" ไปใช้ ภายใน 4 ปี คนพิการทั้งกลุ่ม 1 พันคนจะหลุดพ้นความยากจน และภายใน 10 ปี คนพิการและครอบครัวทั้งหมด 1 พันคนจะยกระดับเป็นชนชั้นที่มีรายได้ปานกลางมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดี แน่นอนว่า "ถ้าคนพิการทำได้ โมเดลนี้คนไม่พิการก็ต้องทำได้เช่นกัน รวมถึงกลุ่มเปราะบางอื่นๆ ด้วย" นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมตื่นเต้นกับโครงการนี้มากๆ ครับ
 |
| ผมกำลังร่างแผนผัง "ESCAPE CORRUPTION PROCESS for PWDs" |
 |
| แผนผังของ "CORRUPTION ESCAPE PROCESS for PWDs" ครับ |
อีกอึดใจเดียวนะครับ ผมกำลังเตรียมทำข้อมูล 2 ชุดสุดท้าย บวกกับเตรียมตัวขึ้นนศาลเพื่อฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ 2 คดีอาญา และขึ้นศาลเพื่อ "นัดพร้อม" คดีแพ่ง 1 คดี ภายในช่วงสิ้นเดือนเมษายน 2563 นี้ให้เรียบร้อยก่อน แล้วผมจะรีบโปรโมทโครงการ และทำนำร้องให้คนพิการและครอบครัวจำนวน 1,000 คนแรก หลุดพ้นจากความยากจนให้เป็นตัวอย่างกับสังคมไทยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น