ตอนพิเศษ 2/2 “วัว 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เป็นมากกว่าวัว” @ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัวสำหรับครอบครัวคนพิการ ให้กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ตามสิทธิมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท จังหวัดกาฬสินธุ์

สวัสดีครับทุกท่าน บทความนี้เป็นตอนพิเศษที่ผมอยากสัมภาษณ์ครอบครัวคุณฐานิดา ในฐานะที่การได้ใช้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใดในการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัว จนได้รับการยอมรับในพื้นที่ อบต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ถึงสิทธิ์คนพิการและผู้ดูแลคนพิการที่มีมูลค่า 112,420 บาท ทำให้มีชาวบ้าน เพื่อนบ้าน ครอบครัวที่มีคนพิการ มาเยี่ยมแทบทุกวัน ทำให้ตอนนี้บ้านคุณฐานิดามีคนต่างถิ่นจากต่างตำบล ต่างอำเภอ และต่างจังหวัดมาเยี่ยมตลอดเวลา จนกลายเป็น “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” กว่าจะถึงทุกวันนี้ได้ ผมจึงอยากนำบทสัมภาษณ์ครอบครัวคุณฐานิดามาแบ่งปันทุกท่าน ลองตามอ่านดูว่า ในตอนพิเศษ 2/2 คำพูดที่ว่า “เป็นมากกว่าวัว” มีความหมายว่าอย่างไรครับ


ปรีดา: สวัสดีครับคุณน้อย คุณฐานิดาด้วยครับ คุยกันสบายๆ นะครับ คิดว่าผมชวนคุยนะครับ เริ่มจากผมเห็นคุณน้อยแต่ในรูปภาพถ่ายนะครับ ผมกับเจี๊ยบ (ภรรยา) ชื่นชมคุณน้อยมากนะครับที่เป็นกำลังสำคัญดูแลวัวทุกตัวเลย จึงอยากให้ช่วยเล่าว่าทำอะไรบ้างให้พวกเราทุกคนได้รู้กันครับ

คุณน้อย: ผมก็ขอบพระคุณทางบริษัทมาม่า มากเลยครับกับสิ่งที่ได้รับ ก็คือว่ามันดีมากเลยครับ

ปรีดา: เริ่มปุ๊บก็ขอบคุณก่อนเลย ผมเข้าใจคุณน้อยนะครับ งั้นเอาใหม่คุณน้อย เริ่มใหม่ ผมอยากให้คุณน้อยเริ่มตรงที่ก่อนที่ครอบครัวจะมีวัว มีคอกวัว อย่างทุกวันนี้ ในความรู้สึกและชีวิตประจำวันเป็นอย่างไรบ้างครับ อาจจะพูดรวมๆ เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ที่ได้รับวัวจากบริษัทมาม่า ก็ได้ครับ

คุณน้อย: ครับ มันดีขึ้นมากเลยครับ อยู่แล้วมีความหวังครับ เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าจะมีแบบนี้ จะได้แบบนี้ครับ มันภูมิใจมากเลยครับ ทั้งวัว ทั้งสิ่งของทุกอย่างที่ได้มา ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ ผมจะทำไปเรื่อยๆ ครับ (แล้วก็เงียบไป)

ปรีดา: ผมช่วยถามดีกว่าครับ เพราะคุณฐานิดาบอกมาแล้วว่าคุณน้อยพูดไม่เก่ง งั้นเริ่มตรงที่ปัจจุบันคุณน้อยทำอะไรอยู่ครับหลังจากได้วัวมาแล้วครับ

คุณน้อย: ตื่นเช้ามืดมาพอทำอะไรเสร็จแล้ว ผมก็จะไปตัดหญ้าประมาณ 6 โมงเช้าครับกว่าจะเสร็จก็ 10 โมงเช้าครับ เพราะว่ามีวัว 4 ตัว ต้องใช้เวลาตัดหญ้าเกี่ยวหญ้าเยอะหน่อยครับ เพราะว่าผมใช้มือครับ ผมไม่มีเครื่องตัดครับ ถ้ามีเครื่องตัด สัก 2 ชั่วโมงก็น่าจะเสร็จครับ พอวัวกินหญ้าเสร็จเราก็ปล่อยให้นอนพักผ่อน ช่วงบ่ายก็จะพาวัวไปเดินครับ เดินจนถึง 4-5 โมงเย็นครับ

คุณน้อย กลับจากตัดหญ้ามาไว้ให้วัวทั้ง 4 ตัวกิน วันละ 4 ชั่วโมงครับ


ปรีดา: แล้วพาไปเดินที่ไหนครับ

คุณน้อย: คือเวลาพามันไปเดิน พาอีกตัวออกมา อีกตัวมันก็ตามมา ตามมาหมดเลยครับ ผมพาไปเดินเส้นในเป็นส่วนใหญ่ครับ เส้นนอกที่ออกไปทางหน้านิคม ไม่ค่อยได้พาไปเดินเส้นนั้นบ่อยเพราะว่า ระหว่างทางจะมีหลายบ้านที่มีวัวอยู่เยอะครับ มันก็คอยจะเดินไปหาพวกของมัน (วัวบ้านอื่น) ทำให้เสียเวลาครับ แล้วรถก็เยอะด้วยครับ เส้นในรถมีน้อยกว่าครับ เส้นในที่พาวัวไปเดินเป็นเส้นทางที่ไปทางป่า หรือทางที่ไปกรีดยางครับ

ปรีดา: ผมถามหน่อยนะครับว่า เวลาเดินใครนำใครตามครับ

คุณน้อย: “ฟาร์มเฮ้าส์” นำเขาเลยครับ แล้ว “โฮมมี่” ก็ตามติดๆ แล้ว “มาม่า” กับอีกตัวก็ตามมาทั้งหมดครับ

คุณน้อย กำลังพาวัวทั้ง 4 ตัวเดินมาตามทางป่ายางครับ


ครอบครัววัว ของครอบครัวคุณฐานิดา กำลังกินหญ้าข้างทางที่คุณน้อยพามาเดินครับ


ปรีดา: อ๋ออีกตัวที่เป็นเงินกู้ยืมมา ซื้อใกล้ๆ กับก่อนที่จะได้จากบริษัทมาม่า ถูกไหม ถ้าผมจำไม่ผิดนะ แล้วตั้งชื่อแล้วหรือยังครับ

คุณฐานิดา: ยังค่ะ ยังไม่มีชื่อค่ะ
ปรีดา: งั้นผมเสนอชื่อครับ ในเมื่อยังไม่มีชื่อก็เรียกว่า “โนเนม” เลยครับ แปลว่า “ไม่มีชื่อ” ครับ
คุณฐานิดา: ดีค่ะ งั้นจะใช้ชื่อ “โนเนม” เลยค่ะ

ปรีดา: กลับมาที่คุณน้อย แล้วคุณน้อยทำยังไงครับ ต้องเลี้ยงวัว ต้องตัดหญ้าด้วย อาชีพกรีดยาง ก็ต้องทำด้วยครับ

คุณน้อย: ตอนนี้ยังไม่ได้กรีดยางครับ ยังไม่ถึงช่วงเวลากรีดยางครับ แต่ถ้าต้องไปกรีดยาง คนละเวลากันครับ ประมาณ ตี 1 ครับ ถ้ามีกรีดยางก็ต้องกรีดยางให้เสร็จแล้วมาตัดหญ้าให้วัวครับ ถ้ามีเครื่องตัดหญ้าก็จะดีมากครับ

ปรีดา: แล้วเวลามีงานรับจ้างคุณน้อย ทำยังไงครับ ก็ต้องรับงานใช่ไหมครับ เพราะวัวยังไม่สร้างรายได้ให้ครอบครัวคุณน้อยเลยใช่ไหมครับ

คุณน้อย: ใช่ครับ ถ้าวันไหนมีงานรับจ้าง ผมก็ต้องเตรียมตัวตัดหญ้าให้พอให้วัวกินสัก 2 วัน แล้วค่อยไปทำงานที่รับจ้างไว้ครับ วันไหนไม่ได้ทำงานรับจ้างก็จะหาหญ้าเยอะหน่อยครับ เพราะบางทีมีงานเข้ามาก็ให้ไปทำเลยก็มีครับ

ปรีดา: ผมถามเป็นความรู้นะครับ แล้วฟางละครับ หญ้ากับฟางให้วัวกินยังไงครับ

คุณน้อย: จริงๆ แล้ว มันก็ได้ทั้งสองอย่างครับ ทั้งฟางทั้งหญ้า แต่ที่ต้องไปหาหญ้าตัดหญ้ามาให้วัว ก็เพราะสงสารวัวครับ ฟางมันแข็ง หญ้ามันอ่อนกว่าครับ

ปรีดา: ถามต่อนะครับ แล้วข้าว วัวกินไหมครับ ถามเพราะไม่รู้ครับ

คุณฐานิดา: กินค่ะ ถ้าเราปั้นข้าวเหนียว วัวก็กินค่ะ อย่างเจ้า “มาม่า” มันชอบมากเลยค่ะ

ปรีดา: ครับถึงคำถามสำคัญแล้วครับ คุณน้อยมีความรู้สึกอยากบอกกับทางบริษัทมาม่า ใช่ไหมครับ

คุณน้อย: ครับ ผมขอขอบพระคุณบริษัทมาม่ามากครับ ผมจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดครับ มันดีมากกับที่ทางบริษัทมาม่าให้มาครับ ทุกๆ วัน ผมตื่นมาผมมีวัวต้องดูแล ผมได้ทำเพื่อทุกคนในครอบครัวครับ

คุณฐานิดา: ค่ะตาน้อยพูดไม่ค่อยเก่ง ตาน้อยตื่นมาจนหลับทำงานทุกอย่าง ไม่เหนื่อยเพราะได้วัวจากบริษัทมาม่าค่ะ หน้าที่หลักๆ ของตาน้อยคือดูแลวัวค่ะ เราทุกคนในครอบครัวจะทำอาชีพเลี้ยงวัวนี้ให้เป็นตัวอย่างกับครอบครัวคนพิการทั่วประเทศค่ะ

(จากซ้ายไปขวา) คุณตา คุณยาย น้องตอง น้องอีฟ

ปรีดา: ขอบคุณคุณน้อยมากครับ วันนี้ขอสัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่ของคุณฐานิดา ต่อเลยนะครับ
คุณฐานิดา: ค่ะอาจารย์ ไปตามตากับยายก่อนค่ะ แต่ว่าทั้งสองท่านพูดไม่ค่อยเก่งค่ะ
ปรีดา: ไม่เป็นไรครับ จะรบกวนไม่มากครับ
ปรีดา: สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ วันนี้ขอสัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่ สักเล็กน้อยนะครับ คุณพ่อคุณแม่สะดวกเริ่มได้เลยนะครับ ผมอยากขอสัมภาษณ์ถามถึงความรู้สึกว่า พอได้วัวจากทางบริษัทมาม่า มาเป็นอย่างไรบ้างครับ

คุณพ่อคุณฐานิดา: ดีใจมาก ต้องขอบคุณบริษัทมาม่ามากที่ให้วัวมา

ปรีดา: คุณพ่อครับ ผมได้ยินจากคุณฐานิดามาว่า ก่อนจะซื้อวัวก็จะมาถามก่อนใช่ไหมครับ

คุณพ่อคุณฐานิดา: เคยทำมาดูวัวเป็น ลูกจะมาถามว่าวัวตัวนั้นดีไหม ใช้ได้ไหม พ่อดูแล้วดีไหม ก็บอกไปว่าตัวนั้นดีไม่ดี วัวมาอยู่ด้วย อยากไปดูไปเลี้ยงที่คอกแต่ไปไม่ไหว เดินไม่ไหว

คุณฐานิดา: ค่ะคุณพ่อเดินไม่ไหว แต่ก็ช่วยดูช่วยเฝ้าให้ค่ะ เดินไม่กี่ก้าวก็ต้องนั่งค่ะ

ปรีดา: เดี๋ยวอาจจะต้องมาช่วยกันดูเรื่องให้คุณพ่อฝึกเดินว่าต้องทำกันอย่างไรนะคุณฐานิดา ขอบคุณคุณพ่อมากนะครับ งั้นขอสัมภาษณ์คุณแม่ต่อเลยนะครับ ถามเหมือนกันเลยครับว่า ได้วัวมาแล้ว คุณแม่รู้สึกอย่างไรบ้างครับ

คุณแม่คุณฐานิดา: ดีใจมากเลยค่ะ ขอบคุณทางบริษัทมาม่ามากเลยค่ะ (เงียบ)

คุณฐานิดา: คุณแม่ท่านพูดไม่ค่อเก่ง ท่านดีใจมากๆ เลยค่ะ คือไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีใครมาให้เงินเป็นแสนมาซื้อวัว ทำให้บ้านเรามีความสุข แม่จะพูดเรื่องนี้บ่อยๆ ค่ะ พอดีคุณแม่มองไม่เห็นค่ะ ถ้ามีใครที่มาเยี่ยม ก็จะพูดเรื่องบริษัทมาม่าให้วัวตลอดค่ะ

ปรีดา: ครับแล้วคุณแม่ พอได้วัวแล้ว เห็นว่าคุณแม่ช่วยคุณฐานิดาด้วยใช่ไหมครับ

คุณแม่คุณฐานิดา: แม่ช่วยรับขวัญวัว วัวเหมือนเป็นคนในบ้าน ต้องรับขวัญวัวด้วย

คุณฐานิดา: ค่ะคุณแม่จะเอาดอกไม้รับขวัญวัว คุยกับวัว คุณแม่เดินได้เดินไปที่คอกวัว คุยกับเขา วัวทยอยมาทีละตัว มาถึงคุณแม่ก็มารับขวัญวัวให้ค่ะ แล้วคุณแม่ก็จะคอยทักคอยถามตลอดว่า วัวกินหญ้าแล้วหรือยัง คอยฟังเสียงวัว ว่าวัวยังอยู่ไหม เวลาพาไปเดิน วัวกลับมาหรือยัง ตอนนี้ก็ห่วงวัวตลอด เฝ้าวัวให้ตลอดค่ะ

ปรีดา: ผมต้องขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ของคุณฐานิดามากนะครับ พูดน้อยแต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณฐานิดาที่แข็งแรงมากนะครับ ผมอยากถามถึงน้องอีฟบ้างว่า วัวมาถึงบ้านแล้วช่วยอะไรบ้างครับ

คุณฐานิดา: ค่ะ น้องอีฟก็ช่วยค่ะ ช่วยเอาหญ้าเอาฟางให้น้องวัวทุกตัวค่ะ เวลาน้องอีฟถามถึงวัว จะบอกเขาตลอดค่ะว่า วัวที่ได้มาจากบริษัทมาม่า แม่ใช้สิทธิ์คนพิการของน้องอีฟนะ ที่ครอบครัวเราได้วัว ที่ครอบครัวเรามีความสุข ก็เพราะน้องอีฟ น้องอีฟก็จะยิ้มทุกครั้งค่ะ

น้องอีฟ กำลังขนฟางมาให้วัวทั้ง 4 ตัวกินครับ



"มาม่า" กำลังกินรำ อยู่ครับ

ปรีดา: ครับ เยี่ยมเลยค่ะ ใช้ได้เลย ตรงนี้ก็เหมือนพวกเราทุกคนในเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ จะพยายามสื่อสารออกไปให้กับครอบครัวคนพิการทั่วประเทศนะครับว่า อย่าไปร่วมมือกับสมาคม มูลนิธิ ที่โกงสิทธิ์คนพิการ รัฐบาลถ้ามีการแจกเงินให้เงินอะไรก็แล้วแต่กับคนพิการต้องประกาศออกทีวีแล้ว ดังนั้นถ้ามีสมาคม ชมรม มูลนิธิ ไหนๆ มาบอกว่าให้เงินหมื่นรายครั้ง หรือเงินพันรายเดือน แต่ต้องเซ็นต์เอกสารนี่นั่นนู่นเยอะแยะให้คิดไว้ก่อนเลยว่า กำลังเอาสิทธิ์เงินแสนกว่าบาทของคนพิการไป แต่มาให้เงินน้อยกับคนพิการแทนครับ

คุณฐานิดา: ใช่ค่ะอาจารย์ เหมือนที่จังหวัดกาฬสินธุ์แทบจะทั้งจังหวัดค่ะที่ถูกโกงสิทธิ์ไป

ปรีดา: ต้องบอกว่าโกงสิทธิ์คนพิการทั่วประเทศครับ พูดเรื่องนี้ทีไรก็ปรี๊ดขึ้นสมองทุกครั้ง สัมภาษณ์น้องตอง ต่อดีกว่าครับ

คุณฐานิดา: ค่ะ ตองพึ่งมาค่ะ ไปขายของพึ่งกลับมาค่ะ ตอนนี้ก็ได้ตองช่วยอย่างมากเลยค่ะ เพราะว่าตาน้อยดูแลวัว ฐานิดาดูแลน้องอีฟ คุณพ่อคุณแม่ ก็ได้น้องตองดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านค่ะ จากเงินที่ไปขายผลไม้ ขายของฝากต่างๆ ที่วิ่งไปวิ่งมาตามจังหวัดต่างๆ ถ้าไม่ได้น้องตองก็แย่เลยค่ะ มาแล้วค่ะน้องตอง

ปรีดา: สวัสดีครับน้องตอง มาถึงพอดี ผมขอสัมภาษณ์ตองด้วยนะครับ ว่าน้องตองมีบทบาทอย่างไรบ้างกับปรากฎการณ์ที่ครอบครัวคุณฐานิดาได้วัวจากบริษัทมาม่าครั้งนี้ แต่เมื่อกี้คุณฐานิดาก็ชมไปเยอะแล้วครับ

น้องตอง: ค่ะ สวัสดีค่ะอาจารย์ปรีดา พึ่งกลับจากขายของมาค่ะ

ปรีดา: ครับ งั้นผมเริ่มเลยละกันครับ อยากถามน้องตองว่า ก่อนหน้านี้ที่แม่ออกมาต่อสู้เรื่องโกงสิทธิ์คนพิการ อยากให้น้องตองพูดยาวไปจนถึงตอนที่คุณฐานิดาเดินจากกาฬสินธุ์ไปกรุงเทพฯ ด้วยนะครับ

น้องตอง: ค่ะ คือตองแต่งงานออกไปแล้วไม่ได้อยู่กับแม่ค่ะ ตองห่วงแม่ค่ะเพราะเราไปสู้กับคนที่โกงไม่ได้หรอก มีข้าราชการช่วยอีก พวกเราเป็นชาวบ้านธรรมดาจะไปสู้กับพวกเขาทำไม แล้วตอนที่ไปเดินอีกทั้งห่วงทั้งรู้สึกว่าจะไปทำทำไม แต่สามีของตองเขาดีมากเลยค่ะ เขาคอยพูดช่วยพูดว่าให้แม่ทำเถอะ เราก็คุยกัน สามีถึงให้ตองมาดูแลตากับยายกับน้องอีฟ ตอนที่แม่ไปเดินถึงกรุงเทพฯ ค่ะ (ร้องไห้) ตอนที่แม่เดิน ตองไปเยี่ยมแม่ มันร้อนมาก แม่ต้องทรมานต้องเดินไกลขนาดนั้น (ร้องไห้) สงสารแม่มาก แต่ก็ห้ามไม่ได้ ได้แต่ให้กำลังใจค่ะ

ปรีดา: ผมเข้าใจเลยนะ ผมคุยกับคุณฐานิดาเยอะ ผมกับเจี๊ยบช่วงนั้นทำให้รู้จักคุณฐานิดาเยอะ คนที่จะเดิน 550 กิโลเมตรแบบนั้นได้ หาไม่ได้อีกแล้ว เพราะคุณฐานิดาแบกครอบครัวคนพิการในจังหวัดกาฬสินธุ์ไว้บนบ่า เดินไปเรื่อยๆ พอพ้นจังหวัดกาฬสินธุ์เท่ากับคุณฐานิดาแบบคนพิการทั่วประเทศไว้บนบ่า การเดินของคุณฐานิดาจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของประเทศไทยแน่นอนครับ ถึงตรงนี้ผมก็ถือว่า น้องตองเป็นบุคคลสำคัญในการเดินครั้งนี้นะครับ เพราะถ้าคุณฐานิดามีห่วงทางบ้าน ไม่มีทางเดินได้สำเร็จแน่นอน

น้องตอง: ค่ะ ตองยินดีทำให้แม่ให้ครอบครัวค่ะ ขอบคุณครอบครัวของสามีด้วยค่ะที่เข้าใจครอบครัวของตองค่ะ

ปรีดา: แล้วตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างครับ หายเหนื่อยหายทุกข์ไหม ที่ทางบริษัทมาม่าให้อาชีพเลี้ยงวัวมาครับ

น้องตอง: ค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างเลยค่ะ ภูมิใจกับแม่มากค่ะ ครอบครัวสามีก็ดีใจไปกับแม่ด้วย หนูต้องขอบพระคุณทางบริษัทมาม่า มากที่สุดเลยค่ะที่เห็นสิ่งที่แม่ทำ ที่แม่เหนื่อย วัวทั้ง 3 ตัวนี้เป็นเหมือนน้ำทิพย์ที่ทำให้พวกเราทุกคนมีความหวัง มีทางเดินไปข้างหน้า ชาวบ้านกล่าวหาว่าแม่โกง จากหนังสือของผู้ว่าราชการจังหวัด ชาวบ้านเข้าใจผิด แม่พูดเท่าไหร่ไม่มีความหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปหมดกับวัว 3 ตัวนี้ที่มาถึงบ้านเรา หนูดีใจกับแม่มากที่เห็นแม่ดีใจ การเดินต้านทุจริตของแม่ทำให้แม่ได้วัวจากผู้ใหญ่ใจดีที่เห็นคุณค่าตรงนี้ค่ะ

ปรีดา: ครับเรื่องนี้ผมเห็นด้วยนะครับ เพราะตอนที่ผมเสนอเรื่องราวของคุณฐานิดา ทางผู้ใหญ่ของบริษัทมาม่าก็เห็นด้วยทุกประการ ไม่มีแม้คำถามสงสัยอะไรเลย การนำเรื่องของคนดี ไปเสนอกับคนดี ผมสบายใจที่จะทำครับ ก็ต้องขอบพระคุณทางผู้ใหญ่ของบริษัทมาม่า ที่เล็งเห็นตรงนี้ด้วยครับ แล้วตอนนี้ละครับ ตองกำลังช่วยแม่อย่างไรครับ

น้องตอง: ค่ะ เราก็คุยกันว่า วัวทั้ง 3 ตัว และรวมกับที่แม่ได้เงินกู้จากกองทุนก่อนหน้าที่จะได้รับเงินของบริษัทมาม่ามาไม่นาน ทำให้ตอนนี้เรามีวัว 4 ตัว ยังไม่สามารถที่จะมีรายได้อะไร และยังต้องเลี้ยงดูทุกๆ คนในครอบครัว ตองจึงปรึกษากับครอบครัวของสามีกันแล้ว ตอนนี้ตองจึงต้องวิ่งรอกไปกลับบ้านสามีกับบ้านแม่ เพื่อนำผลไม้มาขายบ้าง วิ่งรับจ้างซื้อของขนของบ้าง

ทางครอบครัวสามีก็ห่วงทางแม่ฐานิดา ก็ให้รถมาใช้คันหนึ่งเวลาตายายเจ็บป่วย ตอนแรกแม่จะไปทำงานกับอาจารย์ ถ้าตองไม่อยู่ ตายายเจ็บป่วยไม่มีใครดู พ่อจะได้พาตายายไปหาหมอได้ค่ะ แต่แม่บอกว่าอาจารย์ไม่ต้องให้ไปแล้ว แม่ดูแลตากับยายกับน้องอีฟ พ่อดูแลวัว ตองจึงต้องหาเงินเข้าบ้านค่ะ ต้องค้าขายต้องวิ่งงานข้างนอกค่ะ ทางบริษัทมาม่าให้โอกาสครอบครัวเราแล้ว ทีเหลือพวกเราทุกคนต้องช่วยกันค่ะ

ปรีดา: แล้วมุมมอองของตอง ที่ว่า ทางมาม่าช่วยแล้ว ทุกคนต้องช่วยกัน ช่วยขยายความอีกนิดครับ

น้องตอง: ค่ะ คือถึงแม้ว่าวัว 3 ตัวนี้จะได้มาแล้ว แต่เรายังไม่สามารถที่จะขายได้ ตองดูแล้วคงขายยากค่ะ ไม่ใช่ว่าขายไม่ได้นะค่ะ เพราะวัวทุกตัวสวยมากดูดีมาก แม่บอกว่ามีคนมาเสนอราคาซื้อตลอดตั้งแต่ได้มา แต่มันกลายเป็นว่าครอบครัวเรารู้สึกผูกพันกับวัวทุกตัว เรารักเขา ตัวหนึ่ง (ฟาร์มเฮ้าส์) ก็ท้องเราก็อยากเห็นลูกเขา อีกตัวก็พึ่งได้มา แม่ตั้งชื่อว่า “มาม่า” ส่วนอีกตัวน่าสงสารเพราะว่าเคยแท้งลูก แม่ก็กำลังดูแลอยากให้เขาท้อง ตัวนี้ชื่อ “โฮมมี่” แม่เล่าว่ามันร้องไห้ แม่ก็คุยกับมันว่า ไปอยู่กับคนอื่นเขาด่าเขาว่าช่างเขา อยู่กับเรานะจะรักจะดูแลให้ ตองดูแล้วคงจะขายวัวยากแล้วละค่ะ เพราะเรารักพวกเขาทุกตัว แต่ที่ตองคิด และแม่ และทุกคนในครอบครัวเราคิดก็คือ

วัวทั้ง 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เปรียบเสมือนกำลังใจ เป็นรางวัลตอบแทน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราตื่นมาเราเห็นวัว 3 ตัวนี้ เรามีศักดิ์ศรีในหมู่บ้านเรา แม่พูดเต็มปากว่า แม่ไม่ได้ไปโกงใคร แต่แม่ถูกโกง ถ้าไม่ถูกโกง ครอบครัวเราคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เมื่อก่อนตื่นเช้ามา แม่ไปตรงไหนก็มีแต่คนว่าแม่โกง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง ตอนนี้แม่ไปไหน คนที่เคยว่าแม่เงียบสนิท ทุกวันนี้มีแต่คนมาดูงาน แม่พูดถึงสิทธิ์คนพิการแสนกว่าบาทด้วยความมั่นใจ นี่ไงวัว 3 ตัวที่ครอบครัวฉันได้มาจากบริษัทมาม่า แม่มีคนนับถือ คำพูดแม่มีคนฟัง

วัวทั้ง 3 ตัวจากบริษัทมาม่า จากผู้ใหญ่ใจดี ทำให้ทุกๆ วันของครอบครัวเรามีค่า มีความหมาย ทำให้ทุกคนในบ้านมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิต ที่จะทำงานอย่างอื่น สำหรับตองแล้ว วัวทั้ง 3 ตัวนี้ประเมินค่าไม่ได้เลยค่ะ เพราะทุกวันนี้ครอบครัวเรามีความสุขมาก เราไม่ต้องห่วงอะไรอีก และแม่กับครอบครัวเราจะเป็นตัวอย่างให้กับครอบครัวคนพิการอื่นๆ ทั่วประเทศค่ะ บ้านเรามีคนพิการถึง 3 คน เราจะสู้กับความถูกต้องและทำให้ดูค่ะ ตองไม่เหนื่อยที่จะต้องทำงานหาเงินเข้าบ้านค่ะ เสร็จงานที่รับปากลูกค้าไว้ ตองคุยกับแม่เรื่องทำขนมกะหลี่ปั๊บค่ะ เพราะแม่ทำอร่อย ตองจะวิ่งส่งวิ่งขายตามพื้นที่ที่ตองวิ่งไปวิ่งมาด้วยค่ะ

ปรีดา: ครับ ผมฟังไปก็ดีใจไปด้วย ขนลุกไปด้วย “วัว 3 ตัวนี้เป็นมากกว่าวัว” ผมคิดว่าถ้าวัวพูดได้ คงจะอยากบอกดีใจกับครอบครัวของคุณฐานิดา มาถึงการสัมภาษณ์สุดท้าย น้องตองตั้งใจจะขอบคุณทางมาม่า เชิญเลยครับ

น้องตอง: ค่ะ ตองต้องขอบพระคุณทางบริษัทมาม่ามากๆ ค่ะ คำขอบคุณที่มาจากตอง ตองจะพยายามทำงานให้กับครอบครัวให้กับวัวทั้ง 3 ตัวที่ได้รับจากบริษัทมาม่า อย่างเต็มที่ค่ะ

ปรีดา: ครับ สั้นๆ แต่เป็นการแสดงออกที่การกระทำของตอง เยี่ยมมากครับ เพราะเท่าที่ผมทั้งรับรู้จากคุณฐานิดา และฟังจากตอง ตองมีหน้าที่ที่ก็หนักเอาการอีกคนนะครับ เพราะการที่ครอบครัวมีคนพิการถึง 3 คน ไม่ใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ สิ่งนี้เช่นกันที่ครอบครัวผมเอง ก็ยังมีกำลังใจที่จะพยายามพิสูจน์ให้สังคมไทยได้เห็นว่า คนพิการทุกคนมีมูลค่า มีคนพิการในบ้านเท่ากับมีสิทธิพืเศษ ที่จะมีโอกาสมีอาชีพที่มั่นคงได้

แม้ว่าปัจจุบันสิทธิพิเศษนี้จะถูกนายกสมาคม มูลนิธิ ผู้นำคนพิการ ร่วมหัวกับข้าราชการโกงกินสิทธิพิเศษมูลค่าคนละแสนกว่าบาททุกๆ ปีไปก็ตาม ผมเป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณฐานิดาเสมอ และจะพยายามส่งเสริมผลักดันทุกทาง ความดี ความพยายาม ในการ “เดินต้านทุจริต พิทักษ์สิทธิ์คนพิการ” จากกาฬสินธุ์ ไปกรุงเทพฯ 550 กิโลเมตร ของคุณฐานิดา ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ผมนึกขอบพระคุณบริษัทมาม่า ผู้ใหญ่ทุกท่านทุกระดับเสมอ ที่นึกถึงครอบครัวคุณฐานิดาครับ


สำหรับบทความ “ตอนพิเศษ 2/2 วัว 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เป็นมากกว่าวัว” มีภาพประกอบที่จะทำให้พี่น้องคนพิการและครอบครัวได้ดูเป็นตัวอย่าง ได้เข้าใจ และเชื่อมั่นได้ว่ายังมีสถานประกอบการที่ดี ที่มีความตั้งใจในการช่วยเหลือสนับสนุนส่งเสริมให้ครอบครัวคนพิการได้มีอาชีพอย่างยั่งยืนเหมือนกับที่ทาง บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทมาม่า ได้สนับสนุนครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน และมีคุณค่ากับครอบครัวคุณฐานิดามากแค่ไหน เพียงแต่ที่ผ่านมาความช่วยเหลือตามวงเงิน 112,420 บาท ของสถานประกอบการอื่นๆ ส่วนใหญ่ กลับไม่ถึงมือของคนพิการและครอบครัวอย่างแท้จริง ดังนั้น “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” ที่ครอบครัวคุณฐานิดา กำลังดำเนินการอยู่ก็จะเข้ามามีบทบาทช่วยให้ความรู้กับคนพิการและครอบครัวในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เป็นอย่างดีครับ

สำหรับตอนพิเศษของครอบครัวคุณฐานิดา อาจจะมีเพิ่มเติมนะครับ เพราะต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่า “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” ฮอตมาก มีคนติดต่อขอดูงานแทบทุกวัน ย้ำนะครับว่า มาเยี่ยมชมดูงานเกือบทุกวัน ต่างกันแค่มากน้อยเท่านั้นเองครับ ครอบครัวคุณฐานิดาตั้งใจทำตรงนี้เพราะต้องการให้คนพิการและครอบครัว เห็นคุณค่าของเงิน 112,420 บาท ที่ไม่ถูกตัดหัวคิว ที่ไม่ถูกตัดเป็นค่าดำเนินการ หรือที่ไม่ถูกโกงสิทธืไป จะมีคุณค่ามากมายแค่ไหนครับ        

พิมพ์เมื่อ 24 พฤษภาคม 2563

สำหรับโครงการ
 Workable Organization หากคนพิการและผู้ดูแลคนพิการได้เข้าร่วม ก็จะได้รับสิทธิมาตรา 35 เช่นเดียวกันกับหลายๆ ท่านที่ได้รับโอกาสดีๆ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ในเว็บไซต์ รวมถึงครอบครัวของคนพิการในบทความนี้เช่นเดียวกันครับ

ส่วนตัวผมเชิญชวนคนพิการและครอบครัวนะครับ ในการเข้าร่วมโครงการกับเรา Workable Organization ร่วมสมัครเป็นสมาชิกกับเรา อ่านรายละเอียดทั้งหมดก่อนตัดสินใจที่ลิงก์เว็บไซต์นี้ครับ https://workableorganization.blogspot.com/



ตอนพิเศษ 2/2 “วัว 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เป็นมากกว่าวัว” @ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัวสำหรับครอบครัวคนพิการ ให้กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ตามสิทธิมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท จังหวัดกาฬสินธุ์: .....วัวทั้ง 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เปรียบเสมือนกำลังใจ เป็นรางวัลตอบแทน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราตื่นมาเราเห็นวัว 3 ตัวนี้ เรามีศักดิ์ศรีในหมู่บ้านเรา แม่พูดเต็มปากว่า แม่ไม่ได้ไปโกงใคร แต่แม่ถูกโกง ถ้าไม่ถูกโกง ครอบครัวเราคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เมื่อก่อนตื่นเช้ามา แม่ไปตรงไหนก็มีแต่คนว่าแม่โกง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง ตอนนี้แม่ไปไหน คนที่เคยว่าแม่เงียบสนิท ทุกวันนี้มีแต่คนมาดูงาน แม่พูดถึงสิทธิ์คนพิการแสนกว่าบาทด้วยความมั่นใจ นี่ไงวัว 3 ตัวที่ครอบครัวฉันได้มาจากบริษัทมาม่า แม่มีคนนับถือ คำพูดแม่มีคนฟัง .....อ่านต่อ

ตอนพิเศษ 1/2 “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” @ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัวสำหรับครอบครัวคนพิการ ให้กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ตามสิทธิมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท จังหวัดกาฬสินธุ์: .....ถึงสิทธิ์คนพิการและผู้ดูแลคนพิการที่มีมูลค่า 112,420 บาท ทำให้มีชาวบ้าน เพื่อนบ้าน ครอบครัวที่มีคนพิการ มาเยี่ยมแทบทุกวัน ทำให้ตอนนี้บ้านคุณฐานิดามีคนต่างถิ่นจากต่างตำบล ต่างอำเภอ และต่างจังหวัดมาเยี่ยมตลอดเวลา จนกลายเป็น “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” กว่าจะถึงทุกวันนี้ได้ ผมจึงอยากนำบทสัมภาษณ์คุณฐานิดามาแบ่งปันทุกท่านครับ .....อ่านต่อ

ตอนที่ 3/4 ปิดบัญชี @ ตัวอย่างเอกสาร “ใบรับเงิน” มาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน): .....สำหรับบทความนี้เป็น “ตอน ¾ ปิดบัญชี” ของคุณฐานิดา อนุอัน ที่ได้รับการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัว จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” ซึ่งผมพิจารณาแล้วว่า คุณฐานิดา ดำเนินกิจกรรมเร็วกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด จึงนำบทความมาเผยแพร่ให้ทุกท่านได้อ่านประกอบความรู้ และประสบการณ์กันก่อนรายอื่นนะครับ .....อ่านต่อ

ครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ตอนที่ 2/4 ดำเนินการภาพรวมนะครับ คือ คุณฐานิดา อนุอัน ซื้อวัวได้แล้ว 2 ตัว ตัวแรกราคา 41,000 บาท ที่ราคาสูงจากราคาเดิมที่ประเมินไว้ 35,000 บาท เนื่องจากวัวตัวนี้ถูกชะตา คุณพ่อคุณฐานิดา ชอบวัวตัวนี้ และที่สำคัญคือ วัวตัวนี้มีลูกติดมาในท้องแล้ว 1 เดือนครับ ส่วนวัวตัวที่ 2 ราคา 35,000 บาทครับ ทำให้ตามงบประมาณต้องหาวัวที่เป็นลูกวัว อีก 1 ตัวแทน ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างหาลูกวัว อยู่ครับ .....อ่านต่อ

ตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับบทความชุดตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด ที่ทางบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนในปี พ.ศ.2563 มีความน่าสนใจหลายมุมมอง กรณีของครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ที่เคยถูกโกงสิทธิมาตรา 35 มาแล้ว พบกับทสัมภาษณ์ที่สะท้อนจิตใจของผู้ถูกระทำ และร่วมกันปลื้มไปกับการได้รับโอกาสดีๆ ด้วยกันครับ และท้ายบทสัมภาษณ์ เราขอนำตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 ที่ถูกต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกท่านได้ศึกษาครับ .....อ่านต่อ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น