สวัสดีครับทุกท่าน
บทความนี้เป็นตอนพิเศษที่ผมอยากสัมภาษณ์ครอบครัวคุณฐานิดา
ในฐานะที่การได้ใช้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใดในการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัว
จนได้รับการยอมรับในพื้นที่ อบต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
ถึงสิทธิ์คนพิการและผู้ดูแลคนพิการที่มีมูลค่า 112,420 บาท
ทำให้มีชาวบ้าน เพื่อนบ้าน ครอบครัวที่มีคนพิการ มาเยี่ยมแทบทุกวัน
ทำให้ตอนนี้บ้านคุณฐานิดามีคนต่างถิ่นจากต่างตำบล ต่างอำเภอ
และต่างจังหวัดมาเยี่ยมตลอดเวลา จนกลายเป็น “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7)
ความช่วยเหลืออื่นใด” กว่าจะถึงทุกวันนี้ได้ ผมจึงอยากนำบทสัมภาษณ์ครอบครัวคุณฐานิดามาแบ่งปันทุกท่าน
ลองตามอ่านดูว่า ในตอนพิเศษ 2/2 คำพูดที่ว่า “เป็นมากกว่าวัว” มีความหมายว่าอย่างไรครับ
สำหรับโครงการ Workable Organization หากคนพิการและผู้ดูแลคนพิการได้เข้าร่วม ก็จะได้รับสิทธิมาตรา 35 เช่นเดียวกันกับหลายๆ ท่านที่ได้รับโอกาสดีๆ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ในเว็บไซต์ รวมถึงครอบครัวของคนพิการในบทความนี้เช่นเดียวกันครับ
ตอนพิเศษ 2/2 “วัว 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เป็นมากกว่าวัว” @ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัวสำหรับครอบครัวคนพิการ ให้กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ตามสิทธิมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท จังหวัดกาฬสินธุ์: .....วัวทั้ง 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เปรียบเสมือนกำลังใจ เป็นรางวัลตอบแทน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราตื่นมาเราเห็นวัว 3 ตัวนี้ เรามีศักดิ์ศรีในหมู่บ้านเรา แม่พูดเต็มปากว่า แม่ไม่ได้ไปโกงใคร แต่แม่ถูกโกง ถ้าไม่ถูกโกง ครอบครัวเราคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เมื่อก่อนตื่นเช้ามา แม่ไปตรงไหนก็มีแต่คนว่าแม่โกง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง ตอนนี้แม่ไปไหน คนที่เคยว่าแม่เงียบสนิท ทุกวันนี้มีแต่คนมาดูงาน แม่พูดถึงสิทธิ์คนพิการแสนกว่าบาทด้วยความมั่นใจ นี่ไงวัว 3 ตัวที่ครอบครัวฉันได้มาจากบริษัทมาม่า แม่มีคนนับถือ คำพูดแม่มีคนฟัง .....อ่านต่อ
ตอนพิเศษ 1/2 “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” @ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัวสำหรับครอบครัวคนพิการ ให้กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ตามสิทธิมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท จังหวัดกาฬสินธุ์: .....ถึงสิทธิ์คนพิการและผู้ดูแลคนพิการที่มีมูลค่า 112,420 บาท ทำให้มีชาวบ้าน เพื่อนบ้าน ครอบครัวที่มีคนพิการ มาเยี่ยมแทบทุกวัน ทำให้ตอนนี้บ้านคุณฐานิดามีคนต่างถิ่นจากต่างตำบล ต่างอำเภอ และต่างจังหวัดมาเยี่ยมตลอดเวลา จนกลายเป็น “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” กว่าจะถึงทุกวันนี้ได้ ผมจึงอยากนำบทสัมภาษณ์คุณฐานิดามาแบ่งปันทุกท่านครับ .....อ่านต่อ
ตอนที่ 3/4 ปิดบัญชี @ ตัวอย่างเอกสาร “ใบรับเงิน” มาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน): .....สำหรับบทความนี้เป็น “ตอน ¾ ปิดบัญชี” ของคุณฐานิดา อนุอัน ที่ได้รับการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัว จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” ซึ่งผมพิจารณาแล้วว่า คุณฐานิดา ดำเนินกิจกรรมเร็วกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด จึงนำบทความมาเผยแพร่ให้ทุกท่านได้อ่านประกอบความรู้ และประสบการณ์กันก่อนรายอื่นนะครับ .....อ่านต่อ
ครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ตอนที่ 2/4 ดำเนินการ: ภาพรวมนะครับ คือ คุณฐานิดา อนุอัน ซื้อวัวได้แล้ว 2 ตัว ตัวแรกราคา 41,000 บาท ที่ราคาสูงจากราคาเดิมที่ประเมินไว้ 35,000 บาท เนื่องจากวัวตัวนี้ถูกชะตา คุณพ่อคุณฐานิดา ชอบวัวตัวนี้ และที่สำคัญคือ วัวตัวนี้มีลูกติดมาในท้องแล้ว 1 เดือนครับ ส่วนวัวตัวที่ 2 ราคา 35,000 บาทครับ ทำให้ตามงบประมาณต้องหาวัวที่เป็นลูกวัว อีก 1 ตัวแทน ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างหาลูกวัว อยู่ครับ .....อ่านต่อ
ตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน): สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับบทความชุดตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด ที่ทางบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนในปี พ.ศ.2563 มีความน่าสนใจหลายมุมมอง กรณีของครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ที่เคยถูกโกงสิทธิมาตรา 35 มาแล้ว พบกับทสัมภาษณ์ที่สะท้อนจิตใจของผู้ถูกระทำ และร่วมกันปลื้มไปกับการได้รับโอกาสดีๆ ด้วยกันครับ และท้ายบทสัมภาษณ์ เราขอนำตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 ที่ถูกต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกท่านได้ศึกษาครับ .....อ่านต่อ
ปรีดา: สวัสดีครับคุณน้อย
คุณฐานิดาด้วยครับ คุยกันสบายๆ นะครับ คิดว่าผมชวนคุยนะครับ
เริ่มจากผมเห็นคุณน้อยแต่ในรูปภาพถ่ายนะครับ ผมกับเจี๊ยบ (ภรรยา)
ชื่นชมคุณน้อยมากนะครับที่เป็นกำลังสำคัญดูแลวัวทุกตัวเลย
จึงอยากให้ช่วยเล่าว่าทำอะไรบ้างให้พวกเราทุกคนได้รู้กันครับ
คุณน้อย:
ผมก็ขอบพระคุณทางบริษัทมาม่า
มากเลยครับกับสิ่งที่ได้รับ ก็คือว่ามันดีมากเลยครับ
ปรีดา: เริ่มปุ๊บก็ขอบคุณก่อนเลย
ผมเข้าใจคุณน้อยนะครับ งั้นเอาใหม่คุณน้อย เริ่มใหม่ ผมอยากให้คุณน้อยเริ่มตรงที่ก่อนที่ครอบครัวจะมีวัว
มีคอกวัว อย่างทุกวันนี้ ในความรู้สึกและชีวิตประจำวันเป็นอย่างไรบ้างครับ อาจจะพูดรวมๆ
เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ที่ได้รับวัวจากบริษัทมาม่า ก็ได้ครับ
คุณน้อย:
ครับ
มันดีขึ้นมากเลยครับ อยู่แล้วมีความหวังครับ เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าจะมีแบบนี้
จะได้แบบนี้ครับ มันภูมิใจมากเลยครับ ทั้งวัว ทั้งสิ่งของทุกอย่างที่ได้มา
ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ ผมจะทำไปเรื่อยๆ ครับ (แล้วก็เงียบไป)
ปรีดา: ผมช่วยถามดีกว่าครับ
เพราะคุณฐานิดาบอกมาแล้วว่าคุณน้อยพูดไม่เก่ง งั้นเริ่มตรงที่ปัจจุบันคุณน้อยทำอะไรอยู่ครับหลังจากได้วัวมาแล้วครับ
คุณน้อย:
ตื่นเช้ามืดมาพอทำอะไรเสร็จแล้ว
ผมก็จะไปตัดหญ้าประมาณ 6 โมงเช้าครับกว่าจะเสร็จก็ 10 โมงเช้าครับ เพราะว่ามีวัว 4
ตัว ต้องใช้เวลาตัดหญ้าเกี่ยวหญ้าเยอะหน่อยครับ เพราะว่าผมใช้มือครับ
ผมไม่มีเครื่องตัดครับ ถ้ามีเครื่องตัด สัก 2 ชั่วโมงก็น่าจะเสร็จครับ พอวัวกินหญ้าเสร็จเราก็ปล่อยให้นอนพักผ่อน
ช่วงบ่ายก็จะพาวัวไปเดินครับ เดินจนถึง 4-5 โมงเย็นครับ
คุณน้อย กลับจากตัดหญ้ามาไว้ให้วัวทั้ง 4 ตัวกิน วันละ 4 ชั่วโมงครับ |
ปรีดา: แล้วพาไปเดินที่ไหนครับ
คุณน้อย:
คือเวลาพามันไปเดิน
พาอีกตัวออกมา อีกตัวมันก็ตามมา ตามมาหมดเลยครับ ผมพาไปเดินเส้นในเป็นส่วนใหญ่ครับ
เส้นนอกที่ออกไปทางหน้านิคม ไม่ค่อยได้พาไปเดินเส้นนั้นบ่อยเพราะว่า
ระหว่างทางจะมีหลายบ้านที่มีวัวอยู่เยอะครับ มันก็คอยจะเดินไปหาพวกของมัน (วัวบ้านอื่น)
ทำให้เสียเวลาครับ แล้วรถก็เยอะด้วยครับ เส้นในรถมีน้อยกว่าครับ
เส้นในที่พาวัวไปเดินเป็นเส้นทางที่ไปทางป่า หรือทางที่ไปกรีดยางครับ
ปรีดา: ผมถามหน่อยนะครับว่า
เวลาเดินใครนำใครตามครับ
คุณน้อย:
“ฟาร์มเฮ้าส์” นำเขาเลยครับ แล้ว “โฮมมี่”
ก็ตามติดๆ แล้ว “มาม่า” กับอีกตัวก็ตามมาทั้งหมดครับ
คุณน้อย กำลังพาวัวทั้ง 4 ตัวเดินมาตามทางป่ายางครับ |
ครอบครัววัว ของครอบครัวคุณฐานิดา กำลังกินหญ้าข้างทางที่คุณน้อยพามาเดินครับ |
ปรีดา: อ๋ออีกตัวที่เป็นเงินกู้ยืมมา
ซื้อใกล้ๆ กับก่อนที่จะได้จากบริษัทมาม่า ถูกไหม ถ้าผมจำไม่ผิดนะ แล้วตั้งชื่อแล้วหรือยังครับ
คุณฐานิดา: ยังค่ะ
ยังไม่มีชื่อค่ะ
ปรีดา: งั้นผมเสนอชื่อครับ
ในเมื่อยังไม่มีชื่อก็เรียกว่า “โนเนม” เลยครับ แปลว่า “ไม่มีชื่อ” ครับ
คุณฐานิดา: ดีค่ะ
งั้นจะใช้ชื่อ “โนเนม” เลยค่ะ
ปรีดา: กลับมาที่คุณน้อย
แล้วคุณน้อยทำยังไงครับ ต้องเลี้ยงวัว ต้องตัดหญ้าด้วย อาชีพกรีดยาง
ก็ต้องทำด้วยครับ
คุณน้อย:
ตอนนี้ยังไม่ได้กรีดยางครับ
ยังไม่ถึงช่วงเวลากรีดยางครับ แต่ถ้าต้องไปกรีดยาง คนละเวลากันครับ ประมาณ ตี 1
ครับ ถ้ามีกรีดยางก็ต้องกรีดยางให้เสร็จแล้วมาตัดหญ้าให้วัวครับ
ถ้ามีเครื่องตัดหญ้าก็จะดีมากครับ
ปรีดา: แล้วเวลามีงานรับจ้างคุณน้อย
ทำยังไงครับ ก็ต้องรับงานใช่ไหมครับ
เพราะวัวยังไม่สร้างรายได้ให้ครอบครัวคุณน้อยเลยใช่ไหมครับ
คุณน้อย:
ใช่ครับ
ถ้าวันไหนมีงานรับจ้าง ผมก็ต้องเตรียมตัวตัดหญ้าให้พอให้วัวกินสัก 2 วัน
แล้วค่อยไปทำงานที่รับจ้างไว้ครับ วันไหนไม่ได้ทำงานรับจ้างก็จะหาหญ้าเยอะหน่อยครับ
เพราะบางทีมีงานเข้ามาก็ให้ไปทำเลยก็มีครับ
ปรีดา: ผมถามเป็นความรู้นะครับ
แล้วฟางละครับ หญ้ากับฟางให้วัวกินยังไงครับ
คุณน้อย:
จริงๆ
แล้ว มันก็ได้ทั้งสองอย่างครับ ทั้งฟางทั้งหญ้า แต่ที่ต้องไปหาหญ้าตัดหญ้ามาให้วัว
ก็เพราะสงสารวัวครับ ฟางมันแข็ง หญ้ามันอ่อนกว่าครับ
ปรีดา: ถามต่อนะครับ
แล้วข้าว วัวกินไหมครับ ถามเพราะไม่รู้ครับ
คุณฐานิดา: กินค่ะ
ถ้าเราปั้นข้าวเหนียว วัวก็กินค่ะ อย่างเจ้า “มาม่า” มันชอบมากเลยค่ะ
ปรีดา: ครับถึงคำถามสำคัญแล้วครับ
คุณน้อยมีความรู้สึกอยากบอกกับทางบริษัทมาม่า ใช่ไหมครับ
คุณน้อย:
ครับ
ผมขอขอบพระคุณบริษัทมาม่ามากครับ ผมจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุดครับ
มันดีมากกับที่ทางบริษัทมาม่าให้มาครับ ทุกๆ วัน ผมตื่นมาผมมีวัวต้องดูแล
ผมได้ทำเพื่อทุกคนในครอบครัวครับ
คุณฐานิดา: ค่ะตาน้อยพูดไม่ค่อยเก่ง
ตาน้อยตื่นมาจนหลับทำงานทุกอย่าง ไม่เหนื่อยเพราะได้วัวจากบริษัทมาม่าค่ะ หน้าที่หลักๆ
ของตาน้อยคือดูแลวัวค่ะ เราทุกคนในครอบครัวจะทำอาชีพเลี้ยงวัวนี้ให้เป็นตัวอย่างกับครอบครัวคนพิการทั่วประเทศค่ะ
(จากซ้ายไปขวา) คุณตา คุณยาย น้องตอง น้องอีฟ |
ปรีดา: ขอบคุณคุณน้อยมากครับ
วันนี้ขอสัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่ของคุณฐานิดา ต่อเลยนะครับ
คุณฐานิดา: ค่ะอาจารย์
ไปตามตากับยายก่อนค่ะ แต่ว่าทั้งสองท่านพูดไม่ค่อยเก่งค่ะ
ปรีดา: ไม่เป็นไรครับ
จะรบกวนไม่มากครับ
ปรีดา: สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่
วันนี้ขอสัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่ สักเล็กน้อยนะครับ คุณพ่อคุณแม่สะดวกเริ่มได้เลยนะครับ
ผมอยากขอสัมภาษณ์ถามถึงความรู้สึกว่า พอได้วัวจากทางบริษัทมาม่า
มาเป็นอย่างไรบ้างครับ
คุณพ่อคุณฐานิดา: ดีใจมาก
ต้องขอบคุณบริษัทมาม่ามากที่ให้วัวมา
ปรีดา: คุณพ่อครับ
ผมได้ยินจากคุณฐานิดามาว่า ก่อนจะซื้อวัวก็จะมาถามก่อนใช่ไหมครับ
คุณพ่อคุณฐานิดา: เคยทำมาดูวัวเป็น
ลูกจะมาถามว่าวัวตัวนั้นดีไหม ใช้ได้ไหม พ่อดูแล้วดีไหม ก็บอกไปว่าตัวนั้นดีไม่ดี
วัวมาอยู่ด้วย อยากไปดูไปเลี้ยงที่คอกแต่ไปไม่ไหว เดินไม่ไหว
คุณฐานิดา: ค่ะคุณพ่อเดินไม่ไหว
แต่ก็ช่วยดูช่วยเฝ้าให้ค่ะ เดินไม่กี่ก้าวก็ต้องนั่งค่ะ
ปรีดา: เดี๋ยวอาจจะต้องมาช่วยกันดูเรื่องให้คุณพ่อฝึกเดินว่าต้องทำกันอย่างไรนะคุณฐานิดา
ขอบคุณคุณพ่อมากนะครับ งั้นขอสัมภาษณ์คุณแม่ต่อเลยนะครับ ถามเหมือนกันเลยครับว่า
ได้วัวมาแล้ว คุณแม่รู้สึกอย่างไรบ้างครับ
คุณแม่คุณฐานิดา: ดีใจมากเลยค่ะ
ขอบคุณทางบริษัทมาม่ามากเลยค่ะ (เงียบ)
คุณฐานิดา: คุณแม่ท่านพูดไม่ค่อเก่ง
ท่านดีใจมากๆ เลยค่ะ คือไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีใครมาให้เงินเป็นแสนมาซื้อวัว
ทำให้บ้านเรามีความสุข แม่จะพูดเรื่องนี้บ่อยๆ ค่ะ พอดีคุณแม่มองไม่เห็นค่ะ
ถ้ามีใครที่มาเยี่ยม ก็จะพูดเรื่องบริษัทมาม่าให้วัวตลอดค่ะ
ปรีดา: ครับแล้วคุณแม่
พอได้วัวแล้ว เห็นว่าคุณแม่ช่วยคุณฐานิดาด้วยใช่ไหมครับ
คุณแม่คุณฐานิดา: แม่ช่วยรับขวัญวัว
วัวเหมือนเป็นคนในบ้าน ต้องรับขวัญวัวด้วย
คุณฐานิดา: ค่ะคุณแม่จะเอาดอกไม้รับขวัญวัว
คุยกับวัว คุณแม่เดินได้เดินไปที่คอกวัว คุยกับเขา วัวทยอยมาทีละตัว มาถึงคุณแม่ก็มารับขวัญวัวให้ค่ะ
แล้วคุณแม่ก็จะคอยทักคอยถามตลอดว่า วัวกินหญ้าแล้วหรือยัง คอยฟังเสียงวัว
ว่าวัวยังอยู่ไหม เวลาพาไปเดิน วัวกลับมาหรือยัง ตอนนี้ก็ห่วงวัวตลอด เฝ้าวัวให้ตลอดค่ะ
ปรีดา: ผมต้องขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ของคุณฐานิดามากนะครับ
พูดน้อยแต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณฐานิดาที่แข็งแรงมากนะครับ
ผมอยากถามถึงน้องอีฟบ้างว่า วัวมาถึงบ้านแล้วช่วยอะไรบ้างครับ
คุณฐานิดา: ค่ะ
น้องอีฟก็ช่วยค่ะ ช่วยเอาหญ้าเอาฟางให้น้องวัวทุกตัวค่ะ เวลาน้องอีฟถามถึงวัว
จะบอกเขาตลอดค่ะว่า วัวที่ได้มาจากบริษัทมาม่า
แม่ใช้สิทธิ์คนพิการของน้องอีฟนะ ที่ครอบครัวเราได้วัว ที่ครอบครัวเรามีความสุข
ก็เพราะน้องอีฟ น้องอีฟก็จะยิ้มทุกครั้งค่ะ
น้องอีฟ กำลังขนฟางมาให้วัวทั้ง 4 ตัวกินครับ |
"มาม่า" กำลังกินรำ อยู่ครับ |
ปรีดา: ครับ
เยี่ยมเลยค่ะ ใช้ได้เลย ตรงนี้ก็เหมือนพวกเราทุกคนในเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ
จะพยายามสื่อสารออกไปให้กับครอบครัวคนพิการทั่วประเทศนะครับว่า
อย่าไปร่วมมือกับสมาคม มูลนิธิ ที่โกงสิทธิ์คนพิการ รัฐบาลถ้ามีการแจกเงินให้เงินอะไรก็แล้วแต่กับคนพิการต้องประกาศออกทีวีแล้ว
ดังนั้นถ้ามีสมาคม ชมรม มูลนิธิ ไหนๆ มาบอกว่าให้เงินหมื่นรายครั้ง
หรือเงินพันรายเดือน แต่ต้องเซ็นต์เอกสารนี่นั่นนู่นเยอะแยะให้คิดไว้ก่อนเลยว่า
กำลังเอาสิทธิ์เงินแสนกว่าบาทของคนพิการไป แต่มาให้เงินน้อยกับคนพิการแทนครับ
คุณฐานิดา: ใช่ค่ะอาจารย์
เหมือนที่จังหวัดกาฬสินธุ์แทบจะทั้งจังหวัดค่ะที่ถูกโกงสิทธิ์ไป
ปรีดา: ต้องบอกว่าโกงสิทธิ์คนพิการทั่วประเทศครับ
พูดเรื่องนี้ทีไรก็ปรี๊ดขึ้นสมองทุกครั้ง สัมภาษณ์น้องตอง ต่อดีกว่าครับ
คุณฐานิดา: ค่ะ
ตองพึ่งมาค่ะ ไปขายของพึ่งกลับมาค่ะ ตอนนี้ก็ได้ตองช่วยอย่างมากเลยค่ะ
เพราะว่าตาน้อยดูแลวัว ฐานิดาดูแลน้องอีฟ คุณพ่อคุณแม่
ก็ได้น้องตองดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านค่ะ จากเงินที่ไปขายผลไม้ ขายของฝากต่างๆ ที่วิ่งไปวิ่งมาตามจังหวัดต่างๆ
ถ้าไม่ได้น้องตองก็แย่เลยค่ะ มาแล้วค่ะน้องตอง
ปรีดา: สวัสดีครับน้องตอง
มาถึงพอดี ผมขอสัมภาษณ์ตองด้วยนะครับ ว่าน้องตองมีบทบาทอย่างไรบ้างกับปรากฎการณ์ที่ครอบครัวคุณฐานิดาได้วัวจากบริษัทมาม่าครั้งนี้
แต่เมื่อกี้คุณฐานิดาก็ชมไปเยอะแล้วครับ
น้องตอง: ค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ปรีดา พึ่งกลับจากขายของมาค่ะ
ปรีดา: ครับ
งั้นผมเริ่มเลยละกันครับ อยากถามน้องตองว่า ก่อนหน้านี้ที่แม่ออกมาต่อสู้เรื่องโกงสิทธิ์คนพิการ
อยากให้น้องตองพูดยาวไปจนถึงตอนที่คุณฐานิดาเดินจากกาฬสินธุ์ไปกรุงเทพฯ ด้วยนะครับ
น้องตอง: ค่ะ
คือตองแต่งงานออกไปแล้วไม่ได้อยู่กับแม่ค่ะ
ตองห่วงแม่ค่ะเพราะเราไปสู้กับคนที่โกงไม่ได้หรอก มีข้าราชการช่วยอีก
พวกเราเป็นชาวบ้านธรรมดาจะไปสู้กับพวกเขาทำไม แล้วตอนที่ไปเดินอีกทั้งห่วงทั้งรู้สึกว่าจะไปทำทำไม
แต่สามีของตองเขาดีมากเลยค่ะ เขาคอยพูดช่วยพูดว่าให้แม่ทำเถอะ เราก็คุยกัน
สามีถึงให้ตองมาดูแลตากับยายกับน้องอีฟ ตอนที่แม่ไปเดินถึงกรุงเทพฯ ค่ะ (ร้องไห้)
ตอนที่แม่เดิน ตองไปเยี่ยมแม่ มันร้อนมาก แม่ต้องทรมานต้องเดินไกลขนาดนั้น
(ร้องไห้) สงสารแม่มาก แต่ก็ห้ามไม่ได้ ได้แต่ให้กำลังใจค่ะ
ปรีดา: ผมเข้าใจเลยนะ
ผมคุยกับคุณฐานิดาเยอะ ผมกับเจี๊ยบช่วงนั้นทำให้รู้จักคุณฐานิดาเยอะ คนที่จะเดิน
550 กิโลเมตรแบบนั้นได้ หาไม่ได้อีกแล้ว
เพราะคุณฐานิดาแบกครอบครัวคนพิการในจังหวัดกาฬสินธุ์ไว้บนบ่า เดินไปเรื่อยๆ
พอพ้นจังหวัดกาฬสินธุ์เท่ากับคุณฐานิดาแบบคนพิการทั่วประเทศไว้บนบ่า
การเดินของคุณฐานิดาจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของประเทศไทยแน่นอนครับ
ถึงตรงนี้ผมก็ถือว่า น้องตองเป็นบุคคลสำคัญในการเดินครั้งนี้นะครับ
เพราะถ้าคุณฐานิดามีห่วงทางบ้าน ไม่มีทางเดินได้สำเร็จแน่นอน
น้องตอง: ค่ะ
ตองยินดีทำให้แม่ให้ครอบครัวค่ะ ขอบคุณครอบครัวของสามีด้วยค่ะที่เข้าใจครอบครัวของตองค่ะ
ปรีดา: แล้วตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างครับ
หายเหนื่อยหายทุกข์ไหม ที่ทางบริษัทมาม่าให้อาชีพเลี้ยงวัวมาครับ
น้องตอง: ค่ะ
ทุกสิ่งทุกอย่างเลยค่ะ ภูมิใจกับแม่มากค่ะ ครอบครัวสามีก็ดีใจไปกับแม่ด้วย
หนูต้องขอบพระคุณทางบริษัทมาม่า มากที่สุดเลยค่ะที่เห็นสิ่งที่แม่ทำ
ที่แม่เหนื่อย วัวทั้ง 3 ตัวนี้เป็นเหมือนน้ำทิพย์ที่ทำให้พวกเราทุกคนมีความหวัง
มีทางเดินไปข้างหน้า ชาวบ้านกล่าวหาว่าแม่โกง จากหนังสือของผู้ว่าราชการจังหวัด
ชาวบ้านเข้าใจผิด แม่พูดเท่าไหร่ไม่มีความหมาย ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปหมดกับวัว 3
ตัวนี้ที่มาถึงบ้านเรา หนูดีใจกับแม่มากที่เห็นแม่ดีใจ
การเดินต้านทุจริตของแม่ทำให้แม่ได้วัวจากผู้ใหญ่ใจดีที่เห็นคุณค่าตรงนี้ค่ะ
ปรีดา: ครับเรื่องนี้ผมเห็นด้วยนะครับ
เพราะตอนที่ผมเสนอเรื่องราวของคุณฐานิดา ทางผู้ใหญ่ของบริษัทมาม่าก็เห็นด้วยทุกประการ
ไม่มีแม้คำถามสงสัยอะไรเลย การนำเรื่องของคนดี ไปเสนอกับคนดี ผมสบายใจที่จะทำครับ
ก็ต้องขอบพระคุณทางผู้ใหญ่ของบริษัทมาม่า ที่เล็งเห็นตรงนี้ด้วยครับ
แล้วตอนนี้ละครับ ตองกำลังช่วยแม่อย่างไรครับ
น้องตอง: ค่ะ
เราก็คุยกันว่า วัวทั้ง 3 ตัว
และรวมกับที่แม่ได้เงินกู้จากกองทุนก่อนหน้าที่จะได้รับเงินของบริษัทมาม่ามาไม่นาน
ทำให้ตอนนี้เรามีวัว 4 ตัว ยังไม่สามารถที่จะมีรายได้อะไร และยังต้องเลี้ยงดูทุกๆ
คนในครอบครัว ตองจึงปรึกษากับครอบครัวของสามีกันแล้ว ตอนนี้ตองจึงต้องวิ่งรอกไปกลับบ้านสามีกับบ้านแม่
เพื่อนำผลไม้มาขายบ้าง วิ่งรับจ้างซื้อของขนของบ้าง
ทางครอบครัวสามีก็ห่วงทางแม่ฐานิดา
ก็ให้รถมาใช้คันหนึ่งเวลาตายายเจ็บป่วย ตอนแรกแม่จะไปทำงานกับอาจารย์
ถ้าตองไม่อยู่ ตายายเจ็บป่วยไม่มีใครดู พ่อจะได้พาตายายไปหาหมอได้ค่ะ
แต่แม่บอกว่าอาจารย์ไม่ต้องให้ไปแล้ว แม่ดูแลตากับยายกับน้องอีฟ พ่อดูแลวัว
ตองจึงต้องหาเงินเข้าบ้านค่ะ ต้องค้าขายต้องวิ่งงานข้างนอกค่ะ ทางบริษัทมาม่าให้โอกาสครอบครัวเราแล้ว
ทีเหลือพวกเราทุกคนต้องช่วยกันค่ะ
ปรีดา: แล้วมุมมอองของตอง
ที่ว่า ทางมาม่าช่วยแล้ว ทุกคนต้องช่วยกัน ช่วยขยายความอีกนิดครับ
น้องตอง: ค่ะ
คือถึงแม้ว่าวัว 3 ตัวนี้จะได้มาแล้ว แต่เรายังไม่สามารถที่จะขายได้
ตองดูแล้วคงขายยากค่ะ ไม่ใช่ว่าขายไม่ได้นะค่ะ เพราะวัวทุกตัวสวยมากดูดีมาก แม่บอกว่ามีคนมาเสนอราคาซื้อตลอดตั้งแต่ได้มา
แต่มันกลายเป็นว่าครอบครัวเรารู้สึกผูกพันกับวัวทุกตัว เรารักเขา ตัวหนึ่ง (ฟาร์มเฮ้าส์)
ก็ท้องเราก็อยากเห็นลูกเขา อีกตัวก็พึ่งได้มา แม่ตั้งชื่อว่า “มาม่า”
ส่วนอีกตัวน่าสงสารเพราะว่าเคยแท้งลูก แม่ก็กำลังดูแลอยากให้เขาท้อง ตัวนี้ชื่อ “โฮมมี่”
แม่เล่าว่ามันร้องไห้ แม่ก็คุยกับมันว่า ไปอยู่กับคนอื่นเขาด่าเขาว่าช่างเขา
อยู่กับเรานะจะรักจะดูแลให้ ตองดูแล้วคงจะขายวัวยากแล้วละค่ะ
เพราะเรารักพวกเขาทุกตัว แต่ที่ตองคิด และแม่ และทุกคนในครอบครัวเราคิดก็คือ
วัวทั้ง
3 ตัวจากบริษัทมาม่า เปรียบเสมือนกำลังใจ เป็นรางวัลตอบแทน
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราตื่นมาเราเห็นวัว 3 ตัวนี้
เรามีศักดิ์ศรีในหมู่บ้านเรา แม่พูดเต็มปากว่า แม่ไม่ได้ไปโกงใคร แต่แม่ถูกโกง
ถ้าไม่ถูกโกง ครอบครัวเราคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เมื่อก่อนตื่นเช้ามา
แม่ไปตรงไหนก็มีแต่คนว่าแม่โกง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง ตอนนี้แม่ไปไหน
คนที่เคยว่าแม่เงียบสนิท ทุกวันนี้มีแต่คนมาดูงาน
แม่พูดถึงสิทธิ์คนพิการแสนกว่าบาทด้วยความมั่นใจ นี่ไงวัว 3
ตัวที่ครอบครัวฉันได้มาจากบริษัทมาม่า แม่มีคนนับถือ คำพูดแม่มีคนฟัง
วัวทั้ง
3 ตัวจากบริษัทมาม่า จากผู้ใหญ่ใจดี ทำให้ทุกๆ วันของครอบครัวเรามีค่า
มีความหมาย ทำให้ทุกคนในบ้านมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิต ที่จะทำงานอย่างอื่น
สำหรับตองแล้ว วัวทั้ง 3 ตัวนี้ประเมินค่าไม่ได้เลยค่ะ
เพราะทุกวันนี้ครอบครัวเรามีความสุขมาก เราไม่ต้องห่วงอะไรอีก
และแม่กับครอบครัวเราจะเป็นตัวอย่างให้กับครอบครัวคนพิการอื่นๆ ทั่วประเทศค่ะ
บ้านเรามีคนพิการถึง 3 คน เราจะสู้กับความถูกต้องและทำให้ดูค่ะ
ตองไม่เหนื่อยที่จะต้องทำงานหาเงินเข้าบ้านค่ะ เสร็จงานที่รับปากลูกค้าไว้
ตองคุยกับแม่เรื่องทำขนมกะหลี่ปั๊บค่ะ เพราะแม่ทำอร่อย
ตองจะวิ่งส่งวิ่งขายตามพื้นที่ที่ตองวิ่งไปวิ่งมาด้วยค่ะ
ปรีดา: ครับ
ผมฟังไปก็ดีใจไปด้วย ขนลุกไปด้วย “วัว 3 ตัวนี้เป็นมากกว่าวัว”
ผมคิดว่าถ้าวัวพูดได้ คงจะอยากบอกดีใจกับครอบครัวของคุณฐานิดา มาถึงการสัมภาษณ์สุดท้าย
น้องตองตั้งใจจะขอบคุณทางมาม่า เชิญเลยครับ
น้องตอง: ค่ะ
ตองต้องขอบพระคุณทางบริษัทมาม่ามากๆ ค่ะ คำขอบคุณที่มาจากตอง
ตองจะพยายามทำงานให้กับครอบครัวให้กับวัวทั้ง 3 ตัวที่ได้รับจากบริษัทมาม่า
อย่างเต็มที่ค่ะ
ปรีดา: ครับ
สั้นๆ แต่เป็นการแสดงออกที่การกระทำของตอง เยี่ยมมากครับ
เพราะเท่าที่ผมทั้งรับรู้จากคุณฐานิดา และฟังจากตอง ตองมีหน้าที่ที่ก็หนักเอาการอีกคนนะครับ
เพราะการที่ครอบครัวมีคนพิการถึง 3 คน ไม่ใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ สิ่งนี้เช่นกันที่ครอบครัวผมเอง
ก็ยังมีกำลังใจที่จะพยายามพิสูจน์ให้สังคมไทยได้เห็นว่า คนพิการทุกคนมีมูลค่า
มีคนพิการในบ้านเท่ากับมีสิทธิพืเศษ ที่จะมีโอกาสมีอาชีพที่มั่นคงได้
แม้ว่าปัจจุบันสิทธิพิเศษนี้จะถูกนายกสมาคม
มูลนิธิ ผู้นำคนพิการ ร่วมหัวกับข้าราชการโกงกินสิทธิพิเศษมูลค่าคนละแสนกว่าบาททุกๆ
ปีไปก็ตาม ผมเป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณฐานิดาเสมอ
และจะพยายามส่งเสริมผลักดันทุกทาง ความดี ความพยายาม ในการ “เดินต้านทุจริต
พิทักษ์สิทธิ์คนพิการ” จากกาฬสินธุ์ ไปกรุงเทพฯ 550 กิโลเมตร ของคุณฐานิดา
ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ผมนึกขอบพระคุณบริษัทมาม่า ผู้ใหญ่ทุกท่านทุกระดับเสมอ
ที่นึกถึงครอบครัวคุณฐานิดาครับ
สำหรับบทความ
“ตอนพิเศษ 2/2 วัว 3
ตัวจากบริษัทมาม่า เป็นมากกว่าวัว” มีภาพประกอบที่จะทำให้พี่น้องคนพิการและครอบครัวได้ดูเป็นตัวอย่าง
ได้เข้าใจ และเชื่อมั่นได้ว่ายังมีสถานประกอบการที่ดี ที่มีความตั้งใจในการช่วยเหลือสนับสนุนส่งเสริมให้ครอบครัวคนพิการได้มีอาชีพอย่างยั่งยืนเหมือนกับที่ทาง
บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทมาม่า ได้สนับสนุนครอบครัวคุณฐานิดา
อนุอัน และมีคุณค่ากับครอบครัวคุณฐานิดามากแค่ไหน เพียงแต่ที่ผ่านมาความช่วยเหลือตามวงเงิน
112,420 บาท ของสถานประกอบการอื่นๆ ส่วนใหญ่ กลับไม่ถึงมือของคนพิการและครอบครัวอย่างแท้จริง
ดังนั้น “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด”
ที่ครอบครัวคุณฐานิดา
กำลังดำเนินการอยู่ก็จะเข้ามามีบทบาทช่วยให้ความรู้กับคนพิการและครอบครัวในจังหวัดกาฬสินธุ์
ได้เป็นอย่างดีครับ
สำหรับตอนพิเศษของครอบครัวคุณฐานิดา
อาจจะมีเพิ่มเติมนะครับ เพราะต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่า “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา
35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” ฮอตมาก มีคนติดต่อขอดูงานแทบทุกวัน ย้ำนะครับว่า
มาเยี่ยมชมดูงานเกือบทุกวัน ต่างกันแค่มากน้อยเท่านั้นเองครับ ครอบครัวคุณฐานิดาตั้งใจทำตรงนี้เพราะต้องการให้คนพิการและครอบครัว
เห็นคุณค่าของเงิน 112,420 บาท ที่ไม่ถูกตัดหัวคิว ที่ไม่ถูกตัดเป็นค่าดำเนินการ
หรือที่ไม่ถูกโกงสิทธืไป จะมีคุณค่ามากมายแค่ไหนครับ
พิมพ์เมื่อ 24 พฤษภาคม 2563
สำหรับโครงการ Workable Organization หากคนพิการและผู้ดูแลคนพิการได้เข้าร่วม ก็จะได้รับสิทธิมาตรา 35 เช่นเดียวกันกับหลายๆ ท่านที่ได้รับโอกาสดีๆ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ในเว็บไซต์ รวมถึงครอบครัวของคนพิการในบทความนี้เช่นเดียวกันครับ
ส่วนตัวผมเชิญชวนคนพิการและครอบครัวนะครับ
ในการเข้าร่วมโครงการกับเรา Workable Organization ร่วมสมัครเป็นสมาชิกกับเรา
อ่านรายละเอียดทั้งหมดก่อนตัดสินใจที่ลิงก์เว็บไซต์นี้ครับ https://workableorganization.blogspot.com/
ตอนพิเศษ 2/2 “วัว 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เป็นมากกว่าวัว” @ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัวสำหรับครอบครัวคนพิการ ให้กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ตามสิทธิมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท จังหวัดกาฬสินธุ์: .....วัวทั้ง 3 ตัวจากบริษัทมาม่า เปรียบเสมือนกำลังใจ เป็นรางวัลตอบแทน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราตื่นมาเราเห็นวัว 3 ตัวนี้ เรามีศักดิ์ศรีในหมู่บ้านเรา แม่พูดเต็มปากว่า แม่ไม่ได้ไปโกงใคร แต่แม่ถูกโกง ถ้าไม่ถูกโกง ครอบครัวเราคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เมื่อก่อนตื่นเช้ามา แม่ไปตรงไหนก็มีแต่คนว่าแม่โกง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง ตอนนี้แม่ไปไหน คนที่เคยว่าแม่เงียบสนิท ทุกวันนี้มีแต่คนมาดูงาน แม่พูดถึงสิทธิ์คนพิการแสนกว่าบาทด้วยความมั่นใจ นี่ไงวัว 3 ตัวที่ครอบครัวฉันได้มาจากบริษัทมาม่า แม่มีคนนับถือ คำพูดแม่มีคนฟัง .....อ่านต่อ
ตอนพิเศษ 1/2 “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” @ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัวสำหรับครอบครัวคนพิการ ให้กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ตามสิทธิมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท จังหวัดกาฬสินธุ์: .....ถึงสิทธิ์คนพิการและผู้ดูแลคนพิการที่มีมูลค่า 112,420 บาท ทำให้มีชาวบ้าน เพื่อนบ้าน ครอบครัวที่มีคนพิการ มาเยี่ยมแทบทุกวัน ทำให้ตอนนี้บ้านคุณฐานิดามีคนต่างถิ่นจากต่างตำบล ต่างอำเภอ และต่างจังหวัดมาเยี่ยมตลอดเวลา จนกลายเป็น “ศูนย์การเรียนรู้สิทธิมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด” กว่าจะถึงทุกวันนี้ได้ ผมจึงอยากนำบทสัมภาษณ์คุณฐานิดามาแบ่งปันทุกท่านครับ .....อ่านต่อ
ตอนที่ 3/4 ปิดบัญชี @ ตัวอย่างเอกสาร “ใบรับเงิน” มาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน): .....สำหรับบทความนี้เป็น “ตอน ¾ ปิดบัญชี” ของคุณฐานิดา อนุอัน ที่ได้รับการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัว จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” ซึ่งผมพิจารณาแล้วว่า คุณฐานิดา ดำเนินกิจกรรมเร็วกว่าคนอื่นๆ ทั้งหมด จึงนำบทความมาเผยแพร่ให้ทุกท่านได้อ่านประกอบความรู้ และประสบการณ์กันก่อนรายอื่นนะครับ .....อ่านต่อ
ครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ตอนที่ 2/4 ดำเนินการ: ภาพรวมนะครับ คือ คุณฐานิดา อนุอัน ซื้อวัวได้แล้ว 2 ตัว ตัวแรกราคา 41,000 บาท ที่ราคาสูงจากราคาเดิมที่ประเมินไว้ 35,000 บาท เนื่องจากวัวตัวนี้ถูกชะตา คุณพ่อคุณฐานิดา ชอบวัวตัวนี้ และที่สำคัญคือ วัวตัวนี้มีลูกติดมาในท้องแล้ว 1 เดือนครับ ส่วนวัวตัวที่ 2 ราคา 35,000 บาทครับ ทำให้ตามงบประมาณต้องหาวัวที่เป็นลูกวัว อีก 1 ตัวแทน ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างหาลูกวัว อยู่ครับ .....อ่านต่อ
ตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด กับครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ได้รับสิทธิตามมาตรา 35 มูลค่า 112,420 บาท ในการทำอาชีพเลี้ยงวัว จ.กาฬสินธุ์ จากบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน): สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับบทความชุดตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 (7) ความช่วยเหลืออื่นใด ที่ทางบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนในปี พ.ศ.2563 มีความน่าสนใจหลายมุมมอง กรณีของครอบครัวคุณฐานิดา อนุอัน ที่เคยถูกโกงสิทธิมาตรา 35 มาแล้ว พบกับทสัมภาษณ์ที่สะท้อนจิตใจของผู้ถูกระทำ และร่วมกันปลื้มไปกับการได้รับโอกาสดีๆ ด้วยกันครับ และท้ายบทสัมภาษณ์ เราขอนำตัวอย่างเอกสารมาตรา 35 ที่ถูกต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกท่านได้ศึกษาครับ .....อ่านต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น